วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551
งานฟุตบอล CU-TU ภูเก็ต'08
23 Oct 2008 - 16.00 - Surakun Stadium - Phuket
CU-TU Phuket Football 2008
23 ตุลาคม 2551 - 16.00 น. - สนามกีฬาสุระกุล จังหวัดภูเก็ต
การแข่งขันฟุตบอลสานสันพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ จังหวัดภูเก็ต ปี 2551
สวัสดีครับเพื่อนๆ พ่อแม่ พี่น้อง
ผลการแข่งขันฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ภูเก็ตของเราปีนี้ ปรากฎว่า บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือพวกเราทุกคนได้สนุกสนาน รู้จักกันมากขึ้น ทุกกิจกรรมได้รับการร่วมมืออย่างดีจากทุกท่านทั้งทางจุฬาฯ และ ธรรมศาสตร์
ผมขออกตัวก่อนว่าไม่ค่อยสันทัดในกีฬาฟุตบอลเท่าที่ควร แต่ก็ได้ดูกีฬาอย่างเช่น เทนนิส บ่อยๆ จึงขอสรุปผลการแข่งขันดังนี้
การแข่งฟุตบอล ครี่งแรก (น่าจะเหมือนเทนนิสแซตแรก) จุฬาฯชนะธรรมศาสตร์ 1-0
การแข่งฟุตบอล ครี่งหลัง (น่าจะเหมือนเทนนิสแซตที่สอง) ธรรมศาสตร์ชนะจุฬาฯ 3-0
จริงๆแล้วน่าจะเรียกว่าเสมอกันหนี่งเซตต่อหนึ่งเซตไม่ใช่หรือครับ แต่สุดท้าย ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมกรรมการมอบถ้วยให้ธรรมศาสตร์ กีฬาฟุตบอลนี่ดูยากจริงๆ
การแข่งขันวิ่งผลัดหญิง 8*50 นั้น จุฬาฯ ชนะ ธรรมศาสตร์ ไป 5 ช่วงตัว
การแข่งขันเตะปี๊บของทีม สว.ชายนั้น เรื่องความไกล จุฬาฯชนะขาดลอย แต่รู้สึกว่าธรรมศาสตร์จะเตะได้สูงกว่านะครับ
เป็นการรายงานในมุมมองนักข่าวมือสมัครเล่นคนใหม่ครับ ถ้าผิดพลาดอย่างไรช่วยวิจารณ์ด้วยนะครับ ส่วนรูปภาพการแข่งขันนั้น ถ้าไม่ขี้เกียจจนเกินไปจะโพสให้ดูอีกครั้ง
เจอกันในการแข่งขันครั้งหน้าครับ
เอิง & ออกัส (เด็กซนๆที่วิ่งรอบสนามในวันนี้)
CU-TU Phuket Football 2008
23 ตุลาคม 2551 - 16.00 น. - สนามกีฬาสุระกุล จังหวัดภูเก็ต
การแข่งขันฟุตบอลสานสันพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ จังหวัดภูเก็ต ปี 2551
สวัสดีครับเพื่อนๆ พ่อแม่ พี่น้อง
ผลการแข่งขันฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ภูเก็ตของเราปีนี้ ปรากฎว่า บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือพวกเราทุกคนได้สนุกสนาน รู้จักกันมากขึ้น ทุกกิจกรรมได้รับการร่วมมืออย่างดีจากทุกท่านทั้งทางจุฬาฯ และ ธรรมศาสตร์
ผมขออกตัวก่อนว่าไม่ค่อยสันทัดในกีฬาฟุตบอลเท่าที่ควร แต่ก็ได้ดูกีฬาอย่างเช่น เทนนิส บ่อยๆ จึงขอสรุปผลการแข่งขันดังนี้
การแข่งฟุตบอล ครี่งแรก (น่าจะเหมือนเทนนิสแซตแรก) จุฬาฯชนะธรรมศาสตร์ 1-0
การแข่งฟุตบอล ครี่งหลัง (น่าจะเหมือนเทนนิสแซตที่สอง) ธรรมศาสตร์ชนะจุฬาฯ 3-0
จริงๆแล้วน่าจะเรียกว่าเสมอกันหนี่งเซตต่อหนึ่งเซตไม่ใช่หรือครับ แต่สุดท้าย ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมกรรมการมอบถ้วยให้ธรรมศาสตร์ กีฬาฟุตบอลนี่ดูยากจริงๆ
การแข่งขันวิ่งผลัดหญิง 8*50 นั้น จุฬาฯ ชนะ ธรรมศาสตร์ ไป 5 ช่วงตัว
การแข่งขันเตะปี๊บของทีม สว.ชายนั้น เรื่องความไกล จุฬาฯชนะขาดลอย แต่รู้สึกว่าธรรมศาสตร์จะเตะได้สูงกว่านะครับ
เป็นการรายงานในมุมมองนักข่าวมือสมัครเล่นคนใหม่ครับ ถ้าผิดพลาดอย่างไรช่วยวิจารณ์ด้วยนะครับ ส่วนรูปภาพการแข่งขันนั้น ถ้าไม่ขี้เกียจจนเกินไปจะโพสให้ดูอีกครั้ง
เจอกันในการแข่งขันครั้งหน้าครับ
เอิง & ออกัส (เด็กซนๆที่วิ่งรอบสนามในวันนี้)
ยิ้มสู้ กับ ฝรั่งเศร้า
การที่เราอยู่ที่ภูเก็ต ต้องพบปะนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่บ่อยๆก็ต้องรู้จักขนบธรรมเนียมของเขาไว้บ้าง เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวครับที่บางครั้งการยิ้มเก่งแบบคนไทยเราก็สร้างปัญหาให้กับเราโดยที่เราไม่รู้ตัว เรื่องมีอยู่ว่าขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยกับฝรั่งนั้นแตกต่างกันคือ คนไทยเรายามเกิดเรื่องเศร้า เสียใจ หรือเหตุไม่พึงปรารถนาใดๆ เราก็มักจะถูกสอนว่าให้ยิ้มสู้เอาไว้ แต่ฝรั่งนั้นไม่ใช่ เวลาเศร้าเขาเศร้า มักจะไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเลย
เรื่องนี้เคยเกิดกับตัวผมเองที่ออฟฟิตของเราเพียวคาร์เร้นท์ (Pure Car Rent) เมื่อฝรั่งคนหนึ่งมาคืนรถที่เช่า และเล่าให้ฟังว่า เขาจอดรถผิดที่ และถูกเสียค่าปรับให้กับตำรวจ ผมก็บอกเขาไปว่าผมเสียใจด้วย “I’m sorry.” และยิ้มเล็กน้อยเพื่อเป็นกำลังใจ แต่เขาดันโกรธ และแสดงความไม่พอใจ และบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องสนุกนะ “This is not fun.” เล่นเอาผมหุบยิ้มแทบไม่ทันเลย ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วนะว่า ห้ามยิ้มเวลาฝรั่งเศร้า แต่เผลอยิ้มสู้แบบไทยๆ
จริงๆแล้วเรื่องห้ามยิ้มเวลาฝรั่งเศร้านั้น คุณพ่อของผมได้ตักเตือนและเล่าเหตุการณ์จริงที่เกิดที่ โรงแรม เพียวแมนชั่น (Pure Mansion Hotel) ของเราให้ฟังครั้งหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลายปีมากแล้ว (ปี พ.ศ. 252X) สมัยที่โรงแรมของเราเพิ่งจะได้มีโอกาสต้อนรับฝรั่งไม่นาน และตอนนั้นเราก็ยังไม่มีกล้องวีดีโอวงจรปิดรักษาความปลอดภัยเหมือนปัจจุบัน เกิดเหตุของหายในห้องพักของลูกค้าฝรั่ง ลูกค้าก็มาแจ้งผู้จัดการโรงแรม ตอนนั้นผู้จัดการก็ยังพูดภาษาอังกฤษได้ไม่มาก ก็เลยยิ้ม ฝรั่งก็เลยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลย หลังจากนั้นคุณพ่อของผมจึงได้อธิบายให้เขาฟัง และสืบหาความจริง ก็ปรากฎว่าฝรั้งด้วยกันนั่นแหละขโมยกันเอง
ก็เป็นเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจนะครับว่า เมื่อฝรั่งเศร้า เราก็ต้องทำหน้าเศร้าด้วย ห้ามยิ้มเด็ดขาด ก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นครับ
เด็ก.ภูเก็ต
เรื่องนี้เคยเกิดกับตัวผมเองที่ออฟฟิตของเราเพียวคาร์เร้นท์ (Pure Car Rent) เมื่อฝรั่งคนหนึ่งมาคืนรถที่เช่า และเล่าให้ฟังว่า เขาจอดรถผิดที่ และถูกเสียค่าปรับให้กับตำรวจ ผมก็บอกเขาไปว่าผมเสียใจด้วย “I’m sorry.” และยิ้มเล็กน้อยเพื่อเป็นกำลังใจ แต่เขาดันโกรธ และแสดงความไม่พอใจ และบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องสนุกนะ “This is not fun.” เล่นเอาผมหุบยิ้มแทบไม่ทันเลย ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วนะว่า ห้ามยิ้มเวลาฝรั่งเศร้า แต่เผลอยิ้มสู้แบบไทยๆ
จริงๆแล้วเรื่องห้ามยิ้มเวลาฝรั่งเศร้านั้น คุณพ่อของผมได้ตักเตือนและเล่าเหตุการณ์จริงที่เกิดที่ โรงแรม เพียวแมนชั่น (Pure Mansion Hotel) ของเราให้ฟังครั้งหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลายปีมากแล้ว (ปี พ.ศ. 252X) สมัยที่โรงแรมของเราเพิ่งจะได้มีโอกาสต้อนรับฝรั่งไม่นาน และตอนนั้นเราก็ยังไม่มีกล้องวีดีโอวงจรปิดรักษาความปลอดภัยเหมือนปัจจุบัน เกิดเหตุของหายในห้องพักของลูกค้าฝรั่ง ลูกค้าก็มาแจ้งผู้จัดการโรงแรม ตอนนั้นผู้จัดการก็ยังพูดภาษาอังกฤษได้ไม่มาก ก็เลยยิ้ม ฝรั่งก็เลยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลย หลังจากนั้นคุณพ่อของผมจึงได้อธิบายให้เขาฟัง และสืบหาความจริง ก็ปรากฎว่าฝรั้งด้วยกันนั่นแหละขโมยกันเอง
ก็เป็นเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจนะครับว่า เมื่อฝรั่งเศร้า เราก็ต้องทำหน้าเศร้าด้วย ห้ามยิ้มเด็ดขาด ก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นครับ
เด็ก.ภูเก็ต
วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551
เที่ยวภูเก็ต ไปเมื่อไหร่ดี
เที่ยวภูเก็ต ไปเมื่อไหร่ดี เป็นคำถามหนึ่งที่ผมถูกถามบ่อยที่สุดเนื่องจากเป็นเด็กภูเก็ตตัวจริง อันนี้มีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงครับ
ประการแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องลมฟ้าอากาศครับ เพราะคนมาเที่ยวภูเก็ตส่วนใหญ่ก็คงจะนึกถึง ทะเล หาดทราย และแสงแดด (แม้ว่าคนไทยส่วนมากจะกลัวผิวดำ) เพราะฉะนั้นคงไม่มีใครอยากมาภูเก็ตตอนช่วงมรสุม หรือช่วงที่มีฝนมากใช่ไหมครับ
ช่วงเวลาที่เหมาะจะท่องเที่ยวภูเก็ตมากที่สุดก็เป็นเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน หรือที่เขาเรียกว่าช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือ High Season นั่นเอง เป็นช่วงเวลาที่มีฝนน้อยครับ แต่ไม่สามารถรับประกันได้นะครับว่าจะไม่เจอฝน มีอยู่ปีหนึ่ง ผมจำได้มีฝนตกติดต่อกันหลายวันในช่วงเดือนธันวาคม ทำให้ฝรั่งหลายคนที่มาเซ็งไปตามกันเลย
และแน่นอนช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงมรสุม มีฝนตกเยอะ เรียกว่าช่วง Low Season หรือเดี๋ยวนี้เขาเรียกใหม่ให้ดูดีว่า Green Season แต่ก็มีบางโอกาสที่ฝนทิ้งช่วงก็มาเที่ยวได้นะครับ
อีกปัจจัยหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงก็คือ ในช่วงมรสุมนั้นเราไม่แนะนำให้เล่นน้ำทะเลครับ โดยเฉพาะชายหาด้านตะวันตกของเกาะภูเก็ต เนื่องจากคลื่นลมแรง และมีคลื่นใต้น้ำที่สามารถเป็นอันตรายได้ ชาวต่างชาติหลายคนไม่เชื่อ เพราะเขาก็เคยเล่นน้ำในบ้านเมืองเขาที่มีคลื่นสูงกว่าภูเก็ต ก็ต้องมาจบชีวิตลงเพราะไม่สามารถว่ายสู้กับแรงดูดของคลื่นใต้น้ำได้ก็มี ไม่ได้เล่าให้กลัวนะครับ แต่ให้ระวัง ถ้าเดินเล่นน้ำทะเลตามชายหาดก็ไม่มีปัญหาอะไร
ประการที่สอง เกี่ยวเนื่องมาจากลมฟ้าอากาศข้างต้นครับ คือราคาค่าบริการต่างๆในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเกี่ยวข้องกับฤดูกาลอย่างชัดเจน คือ ช่วง High Season อะไรอะไรก็จะมีราคาสูงกว่าช่วง Low Season โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นช่วงฤดูหนาวของทางยุโรป และอเมริกา ทำให้มีนักท่องเที่ยวหนีหนาวเข้ามาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก แน่นอนครับราคาสินค้าและบริการต่างๆก็ต้องสูงขึ้งเป็นธรรมดา โดยเฉพาะช่วงวันที่ 20 ธันวาคม ถึง 10 มกราคม เป็นช่วงที่ราคาสูงที่สุด เรียกว่า Peak Period คือเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะในคืนก่อนวันคริสต์มาส และคืนก่อนวันปีใหม่ ราคาของโรงแรมจะแพงเป็นพิเศษ และหากเป็นโรงแรมใหญ่ๆหรูๆ เขาก็จะบังคับให้แขกของโรงแรมทุกคนซื้ออาหารค่ำของโรงแรมที่เรียกว่า Gala Dinner ซึ่งแน่นอนครับราคาไม่ถูกแน่
ส่วนช่วงวันสงกรานต์ก็จะมีคนมาเที่ยวเยอะ ถึงแม้ราคาโรงแรมและบริการต่างๆจะไม่แพงเท่าช่วง Peak Period แต่ก็มีคนมาจำนวนมากครับ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็มาช่วงอื่นดีกว่า
ช่วงเทศกาลกินเจ หรือที่ชาวภูเก็ตเรียกว่า เทศกาลถือศีลกินผัก ก็เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจที่จะไปเที่ยวภูเก็ตนะครับ เพราะนอกจากจะมีโอกาสได้ทำบุญ ทำจิตใจให้สบายแล้ว ยังมีโอกาสได้ดูขบวนแห่พระ และพิธีกรรมอันศักสิทธิ์ต่างๆตลอดช่วง 9 วันของเทศกาลกินผักด้วย
อีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงคือ หากท่านคิดจะเดินทางไปเที่ยวตามเกาะต่างๆรอบๆภูเก็ตละก็ ต้องคำนึงถึงเรื่องฤดูกาล ลมฟ้าอากาศด้วย ถ้าเป็น เกาะพีพี เกาะเฮ อ่าวพังงา ไปได้ทั้งปีครับ เพราะอยู่ไม่ไกลและใกล้แผ่นดิน คลื่นลมจึงไม่แรงมาก ยกเว้นช่วงที่ฝนตกหนักมีพายุจริงๆบริษัททัวร์ก็จะหยุดให้บริการ แต่หากท่านต้องการไป หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ เกาะรายา ต้องไปช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายนเท่านั้น ส่วนเกาะรายานั้นเดี๋ยวนี้เขาก็ไปกันช่วง Low Season ด้วย แต่ผมก็ไม่ค่อยจะแนะนำเท่าไหร่เพราะคลื่นแรง แต่ถ้าจะไปก็ไปได้ครับ
สรุป ถ้าจะให้แนะนำ เที่ยวสนุกและประหยัด ก็ไปเที่ยวภูเก็ตในเดือนพฤศจิกายน หรือมีนาคมเพราะฝนน้อย นักท่องเทียวต่างชาติก็ไม่เยอะมากนัก หรือถ้าอยากประหยัด ช่วง Low Season ก็ไม่เลวนะครับ หาช่วงที่ฝนทิ้งช่วง และก็จองตั๋วไปกันเลย เพราะตั๋วรถ หรือเครื่องบินก็คงพอหาได้ ส่วนที่พักก็ไม่เต็มชัวร์ แถมราคาถูกด้วย ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องงนประมาณก็เที่ยวช่วง High Season เดือนไหนก็ได้ ควรหลีกเลี่ยงช่วง Peak Period (ปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคม) เพราะราคาโรงแรมและบริการต่างๆจะแพงมาก บางที่แพงขึ้น 2-3 เท่าก็เคยมีครับ
ประการแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องลมฟ้าอากาศครับ เพราะคนมาเที่ยวภูเก็ตส่วนใหญ่ก็คงจะนึกถึง ทะเล หาดทราย และแสงแดด (แม้ว่าคนไทยส่วนมากจะกลัวผิวดำ) เพราะฉะนั้นคงไม่มีใครอยากมาภูเก็ตตอนช่วงมรสุม หรือช่วงที่มีฝนมากใช่ไหมครับ
ช่วงเวลาที่เหมาะจะท่องเที่ยวภูเก็ตมากที่สุดก็เป็นเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน หรือที่เขาเรียกว่าช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือ High Season นั่นเอง เป็นช่วงเวลาที่มีฝนน้อยครับ แต่ไม่สามารถรับประกันได้นะครับว่าจะไม่เจอฝน มีอยู่ปีหนึ่ง ผมจำได้มีฝนตกติดต่อกันหลายวันในช่วงเดือนธันวาคม ทำให้ฝรั่งหลายคนที่มาเซ็งไปตามกันเลย
และแน่นอนช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงมรสุม มีฝนตกเยอะ เรียกว่าช่วง Low Season หรือเดี๋ยวนี้เขาเรียกใหม่ให้ดูดีว่า Green Season แต่ก็มีบางโอกาสที่ฝนทิ้งช่วงก็มาเที่ยวได้นะครับ
อีกปัจจัยหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงก็คือ ในช่วงมรสุมนั้นเราไม่แนะนำให้เล่นน้ำทะเลครับ โดยเฉพาะชายหาด้านตะวันตกของเกาะภูเก็ต เนื่องจากคลื่นลมแรง และมีคลื่นใต้น้ำที่สามารถเป็นอันตรายได้ ชาวต่างชาติหลายคนไม่เชื่อ เพราะเขาก็เคยเล่นน้ำในบ้านเมืองเขาที่มีคลื่นสูงกว่าภูเก็ต ก็ต้องมาจบชีวิตลงเพราะไม่สามารถว่ายสู้กับแรงดูดของคลื่นใต้น้ำได้ก็มี ไม่ได้เล่าให้กลัวนะครับ แต่ให้ระวัง ถ้าเดินเล่นน้ำทะเลตามชายหาดก็ไม่มีปัญหาอะไร
ประการที่สอง เกี่ยวเนื่องมาจากลมฟ้าอากาศข้างต้นครับ คือราคาค่าบริการต่างๆในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเกี่ยวข้องกับฤดูกาลอย่างชัดเจน คือ ช่วง High Season อะไรอะไรก็จะมีราคาสูงกว่าช่วง Low Season โดยเฉพาะช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นช่วงฤดูหนาวของทางยุโรป และอเมริกา ทำให้มีนักท่องเที่ยวหนีหนาวเข้ามาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก แน่นอนครับราคาสินค้าและบริการต่างๆก็ต้องสูงขึ้งเป็นธรรมดา โดยเฉพาะช่วงวันที่ 20 ธันวาคม ถึง 10 มกราคม เป็นช่วงที่ราคาสูงที่สุด เรียกว่า Peak Period คือเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะในคืนก่อนวันคริสต์มาส และคืนก่อนวันปีใหม่ ราคาของโรงแรมจะแพงเป็นพิเศษ และหากเป็นโรงแรมใหญ่ๆหรูๆ เขาก็จะบังคับให้แขกของโรงแรมทุกคนซื้ออาหารค่ำของโรงแรมที่เรียกว่า Gala Dinner ซึ่งแน่นอนครับราคาไม่ถูกแน่
ส่วนช่วงวันสงกรานต์ก็จะมีคนมาเที่ยวเยอะ ถึงแม้ราคาโรงแรมและบริการต่างๆจะไม่แพงเท่าช่วง Peak Period แต่ก็มีคนมาจำนวนมากครับ ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็มาช่วงอื่นดีกว่า
ช่วงเทศกาลกินเจ หรือที่ชาวภูเก็ตเรียกว่า เทศกาลถือศีลกินผัก ก็เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจที่จะไปเที่ยวภูเก็ตนะครับ เพราะนอกจากจะมีโอกาสได้ทำบุญ ทำจิตใจให้สบายแล้ว ยังมีโอกาสได้ดูขบวนแห่พระ และพิธีกรรมอันศักสิทธิ์ต่างๆตลอดช่วง 9 วันของเทศกาลกินผักด้วย
อีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงคือ หากท่านคิดจะเดินทางไปเที่ยวตามเกาะต่างๆรอบๆภูเก็ตละก็ ต้องคำนึงถึงเรื่องฤดูกาล ลมฟ้าอากาศด้วย ถ้าเป็น เกาะพีพี เกาะเฮ อ่าวพังงา ไปได้ทั้งปีครับ เพราะอยู่ไม่ไกลและใกล้แผ่นดิน คลื่นลมจึงไม่แรงมาก ยกเว้นช่วงที่ฝนตกหนักมีพายุจริงๆบริษัททัวร์ก็จะหยุดให้บริการ แต่หากท่านต้องการไป หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ เกาะรายา ต้องไปช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายนเท่านั้น ส่วนเกาะรายานั้นเดี๋ยวนี้เขาก็ไปกันช่วง Low Season ด้วย แต่ผมก็ไม่ค่อยจะแนะนำเท่าไหร่เพราะคลื่นแรง แต่ถ้าจะไปก็ไปได้ครับ
สรุป ถ้าจะให้แนะนำ เที่ยวสนุกและประหยัด ก็ไปเที่ยวภูเก็ตในเดือนพฤศจิกายน หรือมีนาคมเพราะฝนน้อย นักท่องเทียวต่างชาติก็ไม่เยอะมากนัก หรือถ้าอยากประหยัด ช่วง Low Season ก็ไม่เลวนะครับ หาช่วงที่ฝนทิ้งช่วง และก็จองตั๋วไปกันเลย เพราะตั๋วรถ หรือเครื่องบินก็คงพอหาได้ ส่วนที่พักก็ไม่เต็มชัวร์ แถมราคาถูกด้วย ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องงนประมาณก็เที่ยวช่วง High Season เดือนไหนก็ได้ ควรหลีกเลี่ยงช่วง Peak Period (ปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคม) เพราะราคาโรงแรมและบริการต่างๆจะแพงมาก บางที่แพงขึ้น 2-3 เท่าก็เคยมีครับ
ป้ายกำกับ:
เที่ยวภูเก็ต,
ไปภูเก็ต,
ภูเก็ต,
เมื่อไหร่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)